อุณหภูมิการลงทุนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน คืนวันที่ 10 เมษายน 58 ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าเล็กน้อย 0.7% ปิดที่ 32.545 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงสวนทิศทางค่าเงินสกุลเอเชียที่ส่วนใหญ่ต่างพากันปรับตัวอ่อนค่าลง
โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงคืนวันที่ 10 เมษายน ยังคงเดินหน้าแข็งค่าเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินที่สำคัญของโลก จากการที่นักลงทุนกลับมากังวลต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดอีกครั้ง หลังจากที่นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯสาขาริชมอนด์ ยังคงยืนยันในความคิดเห็นของตัวเองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯควรที่จะเริ่มมาตรการเข้มงวดทางการเงินได้แล้ว โดยชี้ว่า ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคอุปโภค ยอดการจ้างงาน และเงื่อนไขทางด้านเศรษฐกิจอื่นๆนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มีความพร้อมเพียงพอที่เฟดหรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอย่างแรงเมื่อเปรียบเทียบกับเงินยูโร โดยเมื่อคืนนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไปปิดที่ 1.060 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อ 1 ยูโร เป็นการอ่อนค่าลงถึง 0.60% เมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และในระหว่างชั่วโมงของการซื้อขาย อ่อนค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 1.0567 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อ 1 ยูโร อันเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม
รวมทั้งค่าเงินสเตอริงของสหราชอาณาจักรก็อ่อนค่าลงทำระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯลงไปแตะที่ระดับ 1.4585 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อ 1 ปอนด์เสตอริง อ่อนค่าลงถึง 0.5%
สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลงตามทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น โดยเงินริงกิตอ่อนค่าลงมากที่สุดถึง 0.97% ไปปิดที่ 3.677 ริงกิตต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ อ่อนค่าลงถึง 0.63% ไปปิดที่ 1.3682 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินดอลลาร์ไต้หวันอ่อนค่าลง 0.31% เงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลง 0.01% เงินรูเปียะห์ของอินโดนีเซีย อ่อนค่าลง 0.18% เงินเปโซ ฟิลิปปินส์แข็งค่า 0.19% เงินรูปีของอินเดียอ่อนค่า 0.12% และเงินหยวนของจีนอ่อนค่า 0.05%