อุณหภูมิการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป วันที่ 8 สิงหาคม 2561 นักลงทุนขายหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตยาออกมาอย่างหนัก หลังรายงานผลประกอบการของกิจการยักษ์ใหญ่ในกลุ่มอ่อนแอกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ นอกจากนั้น ตลาดยังกลับมากังวลกับรายงานข่าวว่า สหรัฐอเมริกาเตรียมเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าอีก 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งข่าวนี้มีผลทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ลงไปซื้อขายในแดนลบในวันนี้ ทำให้กดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยุโรป และเกิดแรงขายลดความเสี่ยงกันออกมา
ดัชนี |
ปิดการซื้อขาย |
เปลี่ยนแปลง |
% |
FTSE |
7,776.65 |
+58.17 |
0.75 |
DAX |
12,633.54 |
- 14.65 |
0.12 |
CAC 40 |
5,501.90 |
-19.41 |
0.35 |
The Stoxx Europe 600 index อันเป็นดัชนีชี้วัดราคาหุ้นที่สำคัญของทั่วทั้งภูมิภาคยุโรป ลดลง 0.2% นำโดยหุ้นในกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพเป็นสำคัญ ภายหลังหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตยาลดลงอย่างแรง จากรายงานผลประกอบการของ Novo Nordisk และLundbeck ผู้ผลิตยารายใหญ่ของยุโรปอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้หุ้นของ Novo Nordisk ลดลงถึง 6% ในขณะที่หุ้นของ Lundbeck ลดลงถึง 14%
ในขณะที่หุ้นของบริษัท UDG Healthcare ของอังกฤษ ลดลงถึงกว่า 10% ภายหลังจากรายงานยอดการขายที่อ่อนแอมากกว่าที่ตลาดคาดหวังเป็นอันมาก
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดลอนดอน สามารถปิดตลาดในแดนบวกได้ หลังหุ้นในกลุ่มผู้ประกอบการส่งออกพากันปรับตัวเพิ่มขึ้นกันอย่างคึกคัก จากการที่ค่าเงินปอนด์สเตอริงอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หลังจากนักลงทุนกลับมากังวลกับกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรอีกครั้ง
ตลาดกลับมากังวลกับสถานการณ์สงครามการค้าอีกครั้ง ภายหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯตัดสินใจเก็บภาษีอีก 25% ในสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะเริ่มจัดเก็บในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ซึ่งรายงานข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดตลาดขึ้นมาในช่วงเช้าซึ่งตรงกับช่วงบ่ายของยุโรปลดลงไปอยู่ในแดนลบกันทั้งหมด ส่งผลให้นักลงทุนในยุโรปขายหุ้นลดความเสี่ยงกันออกมา